Blog

  • นักสืบประสบการณ์ 30 ปี เผยที่ยอดฮิต “คนนอกใจ” ชอบนัดพบชู้ คาดไม่ถึงจริงๆ

    นักสืบเอกชนเผยสถานที่ยอดนิยมที่คนมักนัดพบเพื่อคบชู้ พร้อมทั้งวิธีอัจฉริยะในการจับภาพหลักฐานโดยที่คนเหล่านั้นไม่ทันรู้ตัว

    เมื่อคนคบชู้ พวกเขามักใช้วิธีที่แยบยลและแนบเนียน เช่น ใช้โทรศัพท์สำรองติดต่อคนรักลับ หรืออ้างว่าต้อง “ทำงานดึก” เพื่อหาโอกาสแอบนัดพบ แต่สำหรับหลายคน การคบชู้มักเกี่ยวข้องกับการแอบไปสถานที่ลับเพื่อพบคนรัก

    นักสืบเอกชนที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ได้เปิดเผยสถานที่ยอดนิยมที่คู่สมรสมักนัดพบกับชู้รัก

    ในการออกรายการพอดแคสต์ รันโน นักสืบเอกชนจากคอนเนตทิคัต ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ที่คู่สมรสไม่ซื่อสัตย์ไปนัดพบกับชู้ เขากล่าวว่า “สมมติว่าผมได้รับการว่าจ้างจากภรรยาให้ติดตามสามี เขามักจะไปที่ปั๊มน้ำมันหรือที่ล้างรถ ทุกครั้งที่ล้างรถ”

    เมื่อถามว่าทำไมที่ล้างรถถึงเป็นสถานที่ยอดนิยม? รันโน ตอบว่า “ถ้าผู้ชายจะไปนัดพบคนรัก เขาต้องการรถที่สะอาดดังนั้นถ้าใครไปที่ล้างรถ ผมก็จะคิดว่า ต่อไปคืออะไร แน่นอนว่าทุกครั้ง มันน่าทึ่งจริง ๆ ว่าพวกเขาทำกันได้อย่างไร”

    แล้วสำหรับผู้หญิงที่นอกใจ พวกเธอจะเลือกสถานที่แตกต่างกันหรือไม่? รันโน กล่าวไว้ว่า “ผู้หญิงไม่ค่อยสนใจอะไรมาก พวกเธอแค่กระโดดขึ้นรถของผู้ชายเลย ผู้ชายมักจะอยากขับรถเสมอ มันค่อนข้างหายากที่จะเจอผู้ชายกระโดดขึ้นรถของผู้หญิง มันไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก”

    เมื่อถามว่าจุดนัดพบมักจะอยู่ไกลจากบ้านแค่ไหน รันโน ได้ให้คำตอบที่น่าตกใจว่า “ใกล้มาก บางครั้งก็อยู่บนถนนเดียวกันเลย ผมเคยเจอคนที่นอกใจในถนนเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในเมืองหรือต่างเมืองข้าง ๆ และมันมักจะเกี่ยวข้องกับงานเป็นส่วนใหญ่”

    หากคู่สมรสที่นอกใจพาคนรักไปที่บาร์ รันโน จะตามเข้าไปด้วย เขาอธิบายว่า “ผมต้องใช้เครื่องมือที่นั่น ผมไม่สามารถเดินเข้าไปพร้อมกับไอโฟนแล้วถ่ายวิดีโอได้ ดังนั้นผมจะเดินเข้าไปพร้อมกับพวงกุญแจที่มีเลนส์จุดเล็ก ๆ ผมเปิดมันแล้ววางไว้บนบาร์นั่งดื่มเบียร์ปล่อยให้กล้องทำงานเอง”

    ทั้งนี้ คนที่นอกใจมักมีพฤติกรรมที่สามารถสังเกตได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายเคยเตือนถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าแฟนไม่ซื่อสัตย์ สัญญาณเหล่านี้รวมถึงการปกป้องตัวเองเมื่อถูกถามเกี่ยวกับงาน, หลีกเลี่ยงการสบตา, ความตึงเครียด, การเก็บโทรศัพท์ไว้ใกล้ตัว และการเดินเร็ว

    อาชีพที่มีโอกาสนอกใจมากที่สุดก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน โดยพนักงานขายอยู่ในอันดับต้น ๆ ตามมาด้วยผู้ที่ทำงานในสายการศึกษา

  • วิจัยมานาน 16 ปี พบเครื่องดื่ม 1 ชนิด กินวันละแก้ว ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ทีมวิจัยศึกษามานาน 16 ปี พบเครื่องดื่ม 1 ชนิด กินวันละแก้ว ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

    มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาหารถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Nature Communications” ซึ่งเป็นวารสารย่อยของ “Nature” แสดงให้เห็นว่าหากผู้หญิงบริโภคนม 1 แก้ว (300 มิลลิกรัม) ในแต่ละวัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 17%

    การศึกษา 500,000 คนชี้ 3 อาหารเสี่ยงสูงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ทีมวิจัยร่วมจากสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาได้คัดเลือกอาสาสมัครจากผู้หญิง 1.3 ล้านคนที่เข้าร่วมโปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมของ NHS และสกอตแลนด์ สุดท้ายคัดเลือกผู้เข้าร่วมการศึกษาได้ 542,778 คน ทีมวิจัยติดตามสุขภาพของอาสาสมัครประมาณ 16.6 ปี และประเมินความเชื่อมโยงระหว่างปัจจัยอาหาร 97 ประเภท กับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ผลวิเคราะห์พบว่า อาหาร 3 ประเภท ได้แก่ แอลกอฮอล์ เนื้อแดง และเนื้อแปรรูป มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่:

    • การบริโภคแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 20 กรัมต่อวัน เพิ่มความเสี่ยง 15%
    • การบริโภคเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปเพิ่มขึ้น 30 กรัมต่อวัน เพิ่มความเสี่ยง 8%
    • หากบริโภคเพิ่ม 100 กรัมต่อวัน ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นถึง 29%

    นม 1 แก้วต่อวันช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 17%

    ในทางกลับกัน อาหารที่มีแคลเซียมและผลิตภัณฑ์นมมีความเชื่อมโยงเชิงลบอย่างมากต่อความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ การบริโภคแคลเซียมเพิ่มขึ้น 300 มิลลิกรัมต่อวัน (เทียบเท่านม 1 แก้ว) จะช่วยลดความเสี่ยงได้ 17% การศึกษายังพบว่านมมีความสัมพันธ์ผกผันกับความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งทวารหนัก

    สารอาหารอื่นที่ช่วยลดความเสี่ยง

    สารอาหารในผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ต วิตามินบี2 (ไรโบฟลาวิน) แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ก็มีความสัมพันธ์เชิงลบต่อความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยการดื่มนมเพิ่ม 200 กรัมต่อวันสามารถลดความเสี่ยงได้ 14% อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เพิ่มเติมชี้ว่าผลป้องกันมะเร็งอาจเชื่อมโยงกับการเสริมแคลเซียมโดยตรง

    แคลเซียมช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อย่างไร

    ดร.เคเรน ปาเปียร์ ผู้เขียนการศึกษากล่าวว่า แคลเซียมอาจช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วยการจับกับกรดน้ำดีและกรดไขมันในลำไส้ใหญ่ เพื่อลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ การศึกษาในหนูพบว่าการเพิ่มแคลเซียมและฟอสฟอรัสในลำไส้ใหญ่ช่วยป้องกันเยื่อบุลำไส้จากความเสียหาย

    แหล่งแคลเซียมสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตส

    หากคุณแพ้แลคโตสหรือไม่ดื่มนม ดร.ปาเปียร์แนะนำให้รับประทานผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ผักกาดเขียว ผักโขม หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง รวมถึง งา อัลมอนด์ ซาร์ดีน และถั่วชนิดต่าง ๆ เพื่อเสริมแคลเซียมที่ร่างกายต้องการ

    การศึกษาครั้งนี้ แม้จะมีจุดแข็งที่ขนาดตัวอย่างใหญ่ แต่ยังจำกัดเฉพาะผู้หญิงเชื้อสายยุโรปในอังกฤษเท่านั้น และยังต้องการการวิจัยที่ครอบคลุมกลุ่มประชากรหลากหลาย เพื่อพัฒนามาตรการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคต

  • เหลือจะเชื่อ! “อาคีฟ” นักมวยต่างชาติใช้ท่า “หิรัญม้วนแผ่นดิน” ดับนักมวยไทย (คลิป)

    ถือเป็นจังหวะปิดเกมสุุดเด็ดขาดของ อาคีฟ กูลูซาดา นักมวยดาวรุ่งจากอาเซอร์ไบจาน ในศึก ONE ลุมพินี 94 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา

    โดย นักชกวัย 19 ปี ขึ้นสังเวียนพบกับ ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า มวยบู๊เดินสู้ไม่ถอยวัย 25 ปี จากจังหวัดอุบลราชธานี ในกติกามวยไทย (รุ่นฟลายเวต 125-135 ป.)

    phungg2

    เกมการชกเป็นไปอย่างสนุกก่อนที่ในช่วงกลางยก 2 อาคีฟ กูลูซาดา จะมาได้จังหวะจับขาคู่ชกพร้อมทั้งดึงจังหวะหมุนตัวสับศอกเข้าเต็มคางส่ง ผึ้งหลวง หล่นลงไปหลับคาสังเวียน

    ซึ่งท่าดังกล่าวที่ นักมวยดาวรุ่งจากอาเซอร์ไบจาน ใช้นั้นก็คือท่าศอกกลับ หรือชื่อในตำรามวยไทยว่า “หิรัญม้วนแผ่นดิน” ลูกไม้มวยไทยลูกนี้ถือเป็นลูกไม้อันตราย ที่หากคู่ต่อสู้โดนเข้าเต็มๆ โอกาสรอดน้อยมาก

    phungg23

    จากชัยชนะในไฟต์นี้ทำให้ อาคีฟ กูลูซาดา ได้รับโชค 2 เด้ง ทั้งโบนัส 350,000 บาท และสัญญาเข้าเป็นนักกีฬา ONE มูลค่า 3.5 ล้านบาท แบบสุดเซอร์ไพรส์

  • ด.ช. 5 ขวบ ถูกลักพาตัว ไหวพริบดี ตะโกนประโยคเดียว ทำคนร้ายหนีหัวซุกหัวซุน

    ถูกลักพาตัว! เด็กชายวัย 5 ขวบ ไหวพริบดี ตะโกนเพียงประโยคเดียว จนคนร้ายต้องหนีหัวซุกหัวซุน

    สื่อจีนรายงานเหตุการณ์ที่เด็กชายวัย 5 ขวบ ชื่อ “เล่อเล่อ” (นามสมมติ) เกือบตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย เมื่อ 2 เดือนก่อน ขณะที่เล่อเล่อเลิกเรียนและกำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมคุณย่า

    ระหว่างทางกลับบ้าน เล่อเล่อเห็นคนขายลูกโป่ง และด้วยความอยากรู้จึงวิ่งเข้าไปโดยไม่ทันสังเกตว่าคุณย่าอยู่ด้านหลัง เมื่อคุณย่าหันมาอีกที เล่อเล่อก็หายไปแล้ว

    คุณย่าตกใจมาก รีบโทรแจ้งพ่อแม่ของเล่อเล่อ ครอบครัวช่วยกันออกตามหา แต่ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ยังไร้วี่แวว จนต้องแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ

    การช่วยเหลือที่ลุ้นระทึก

    จากกล้องวงจรปิด ตำรวจพบว่าเล่อเล่อตามผู้หญิงขายลูกโป่งไปและขึ้นรถบรรทุกคันเล็ก ตำรวจและครอบครัวจึงแยกกันออกค้นหา โดยมุ่งไปที่สถานีรถไฟและสถานีขนส่ง

    แม้จะค้นหาตลอดทั้งคืนที่สถานีรถไฟ แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของเล่อเล่อ เมื่อความหวังเริ่มริบหรี่ จู่ๆ เล่อเล่อก็ปรากฏตัวต่อหน้าตำรวจ ส่วนผู้หญิงที่ลักพาตัวเขานั้นหนีไปได้ทัน

    หลังจากเหตุการณ์สงบลง เล่อเล่อได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง

    ปรากฏว่า ผู้หญิงคนนั้นหลอกเล่อเล่อด้วยคำพูดว่า “ในรถมีลูกโป่งสวยๆ มากมาย เดี๋ยวป้าจะแจกให้ฟรี” ด้วยความไร้เดียงสา เล่อเล่อจึงตามไปโดยไม่คิดอะไร เมื่อถึงที่หมาย ผู้หญิงคนนั้นก็ผลักเขาขึ้นรถ

    เมื่อไปถึงสถานีรถไฟ เล่อเล่อเริ่มตระหนักว่าเขาตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ แต่แทนที่จะตกใจและร้องขอความช่วยเหลือ เขาเลือกที่จะอดทนและสังเกตสถานการณ์เพื่อรอโอกาส

    ที่ห้องพักผู้โดยสาร เล่อเล่อสังเกตเห็นตำรวจที่กำลังเดินตรวจตราอยู่ เขาอาศัยจังหวะที่ผู้หญิงไม่ทันสังเกต ตะโกนขึ้นว่า “ลุง! ทำไมลุงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”

    เสียงเรียกที่คาดไม่ถึงทำให้ผู้หญิงตกใจ เพราะคิดว่าตำรวจคนนั้นเป็นญาติของเล่อเล่อ เธอรีบปล่อยมือและหนีไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เล่อเล่อได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจอย่างปลอดภัย

    เล่ห์กลของขบวนการค้ามนุษย์และบทเรียนสำหรับพ่อแม่

    เรื่องราวของเล่อเล่อสร้างความสะเทือนใจให้หลายคน แต่เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้กลับเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

    ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วในเมืองเหมยโจว มณฑลกวางตุ้ง เด็กหญิงวัย 4 ขวบถูกชายคนหนึ่งในหมู่บ้านหลอกขึ้นรถด้วยข้ออ้างว่า “ไปซื้อของกันเถอะ” โชคดีที่หลังจากการพยายามอย่างหนักนาน 3 วัน 3 คืน ตำรวจก็ช่วยเหลือเด็กหญิงได้สำเร็จ

    ขบวนการค้ามนุษย์มักใช้กลอุบายที่แยบยล การละเลยเพียงเล็กน้อยของพ่อแม่อาจนำไปสู่ภัยอันตรายสำหรับลูก นี่คือบางเล่ห์กลที่พ่อแม่ควรทราบ

    1. หลอกล่อด้วยของเล่นและขนม
    นี่คือวิธีที่พบได้บ่อยที่สุด คนร้ายมักใช้ของเล่นหรือขนมหวานมาล่อลวงเด็ก เช่น “หนูจ๊ะ ในรถมีของเล่นสวยๆ อีกเยอะเลย มาดูสิ เดี๋ยวพี่ให้” เด็กๆ มักตกหลุมพรางเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรือความสนุกสนาน

    2. ใช้เด็กล่อเด็ก
    บางครั้งคนร้ายใช้ลูกของตัวเองเป็นเครื่องมือ หลอกล่อเด็กคนอื่นโดยให้ลูกเข้าไปทำความสนิทสนม แล้วค่อยหลอกพาเด็กไป

    3. สร้างสถานการณ์วุ่นวายและฉวยโอกาส
    บางกลุ่มสร้างสถานการณ์ให้ดูวุ่นวาย เช่น แกล้งทะเลาะกับเด็กเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนรอบข้าง แล้วรีบฉวยโอกาสลักพาตัวเด็กไป

    คำแนะนำสำคัญเพื่อปกป้องลูก

    1. คอยระวังเมื่อพาลูกออกนอกบ้าน
    พ่อแม่ควรดูแลลูกให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา หากต้องยุ่งอยู่กับบางสิ่ง ให้บอกเด็กว่าอย่าห่างจากที่ที่กำหนดไว้

    2. สอนให้ปฏิเสธคนแปลกหน้า
    บอกลูกว่าอย่ารับของหรือคำชวนจากคนแปลกหน้า คุณอาจสร้าง “รหัสลับ” เพื่อให้ลูกใช้ตรวจสอบว่าเป็นคนรู้จักจริงหรือไม่

    3. สอนให้จำข้อมูลสำคัญ
    สอนลูกให้จำชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ของบ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีฉุกเฉิน

    4. กระตุ้นให้ร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอันตราย
    บอกลูกว่า หากรู้ตัวว่ากำลังจะถูกลักพาตัว ให้รีบตะโกนดังๆ ว่า “ช่วยหนูด้วย! คนนี้ไม่ใช่พ่อ/แม่ของหนู!” เพื่อทำให้คนร้ายตกใจและดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง

    5. ใช้เรื่องราวและหนังสือภาพเพื่อการเรียนรู้
    เนื่องจากเด็กเล็กอาจเข้าใจเรื่องราวซับซ้อนได้ยาก พ่อแม่สามารถใช้หนังสือภาพหรือเรื่องเล่าเพื่อช่วยให้ลูกเข้าใจวิธีป้องกันตัว

    การปกป้องลูกเริ่มต้นที่การศึกษา

    ความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง

    แม้ว่าจะไม่สามารถปกป้องลูกได้ตลอดเวลา แต่พ่อแม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกผ่านการศึกษาและการปลูกฝังที่ถูกต้อง ดังเช่นเรื่องของเล่อเล่อ ที่แสดงให้เห็นว่า ความฉลาดและความกล้าหาญของเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม สามารถเปลี่ยนสถานการณ์คับขันให้กลายเป็นเรื่องราวที่จบลงอย่างปลอดภัย

    เริ่มต้นการสอนเรื่องความปลอดภัยให้ลูกตั้งแต่วันนี้ เพื่อรักษาความสุขและความเจริญเติบโตของพวกเขา สมบัติที่มีค่าที่สุดในครอบครัว

  • ซาวด์เอ็นจิเนียร์ แฟนหนุ่มคู่กรณี “แสตมป์ อภิวัชร์” โพสต์หลักฐานเด็ด คอมเมนต์เดือด!

    ยังคงเป็นประเด็นร้อนอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักร้องหนุ่ม แสตมป์ อภิวัชร์ ที่ออกมาว่าเผยภรรยาโดนคุกคาม พ่อคู่กรณีนายพลขู่ยัดคดี โยงวง Tilly Birds 

    และทางด้าน ซาวด์เอ็นจิเนียร์ Tilly Birds แฟนคู่กรณี แสตมป์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์แจง ปมประเด็น แสตมป์ อภิวัชร์ ภรรยาถูกคุกตาม ที่ดูเหมือนจะเป็นหนังคนละม้วน รวมถึงก่อนหน้านี้ที่ได้ลบโพสต์หลักบานการฟ้องและแชทไลน์ออกไป 

    โดยล่าสุด ซาวด์เอ็นจิเนียร์ Tilly Birds แฟนหนุ่มคู่กรณี ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงใหม่อีกครั้ง โดยได้เปิดเผยหลักฐายเด็ด เอกสารการฟ้องร้องที่ชัดเจนกว่าเดิมว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น พร้อมทั้งข้อความที่เขียนที่แจ้งว่าที่ลบข้อความความก่อนหน้านี้ เพราะกังวลและลนลานมาก จึงได้เรียบเรียงใหม่เป็นโพสต์นี้ 

    กับโพสต์ภาพและข้อความที่เนื้อหาว่า “ขอโทษที่ลบข้อความก่อนหน้านี้ ผมกังวลและลนลานมาก ขอเรียบเรียงแบบชัดเจนอีกครั้งหนึ่งครับ ในส่วนอื่นที่ยังไม่เปิดเผย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางกฎหมาย จึงต้องปรึกษาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการต่อไปอีกครั้งครับ

    “เรื่องประเด็นคดี
    ไม่เคยมีคำตัดสินเรื่องคุกคามแต่อย่างใด มีเพียงคดีหมิ่นประมาท กับคดีอื่นๆที่โจทก์ถอนฟ้อง คดีที่เรายอมความคือคดีละเมิด ในเนื้อความมีเรื่องเกี่ยวกับการชู้สาวที่ศาลเยาวชน เราได้ทำสัญญาการจ่ายเงิน เป็นจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อให้เรื่องจบ และเราไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเขาอีกตามสัญญาท้ายฟ้อง เรามองว่าเราจ่ายได้ อีกทั้งชั่งน้ำหนักกับเรื่องที่พ่อพวกเราป่วย จึงตัดสินใจไปทางนี้ เพื่อจะกลับมาใช้เวลาดูแลครอบครัว และคงดีที่ไม่ต้องพูดถึงกันอีกต่อไป ตรงส่วนนี้คือที่ทางวง Tilly Birds หมายถึงครับ“
    .
    แนบหลักฐานในการฟ้องมาให้ดูครับ มีการฟ้องกันหลายคดี มีการฟ้องชู้ด้วย หากทางโน้นมีหลักฐานใดโต้แย้งเชิญได้เลยครับ เพราะฉะนั้นทุกคดีของเราไม่เคยมีการสืบพยาน ไม่เคยไปถึงเรื่องจริง มีแต่ตกลงว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้เพื่อจบเรื่อง ซึ่งวันนี้เรารู้แล้วว่าเราพลาดเพราะมันทำให้คนเข้าใจว่าเรายอมรับผิด“

    คดีเกี่ยวกับการคุกคามใดๆ แบบที่เขาอ้าง และอ้างว่าชนะไม่มีอยู่จริงครับ ถ้ามีอยู่ช่วยแสดงออกมาด้วยครับ”

    ที่แฟนผมไม่ออกมาพูดเพราะขณะนี้สภาพจิตใจพังทลายมากจากการโดนตามอาฆาตมาตลอด มีการส่งจดหมายไปตามที่ต่างๆ ที่เคยทำงานเพื่อให้มีการเลิกจ้าง โทรหาบุคคลที่ผมทำงาน หรือเคยทำงานด้วย เพื่อให้เราสองคนไม่มีงานทำ ผมจึงขอออกมาพูดแทนครับ“

    เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากและทุกคนอยากลืมมันไป ขณะนี้มีคนเสียหายเยอะมากเพราะทุกคนแค่ไม่อยากให้ใครต้องมาบาดเจ็บการเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ผมขอโทษครับ“

    นี่คือสิ่งที่ผมบอกกับวงและคนรอบข้างไป Tilly Birds และหลายๆคนจึงไม่อยากเข้ามายุ่ง

    ผมขอโทษที่ก่อนหน้านี้แสดงอาการลนลานและโพสต์อะไรที่จับใจความไม่ได้ออกไป

    ส่วนเรื่องอื่นๆหลังจากนี้ผมจะขอใช้เวลาเตรียมการให้ดีและรอบคอบขึ้นและจะมีการออกมาพูดอย่างแน่นอนครับ”

     

  • ชาวเน็ตขุดภาพ งานแต่งสาวคู่กรณี “แสตมป์” อดีตสามีวอน “อย่าเอาผมไปเกี่ยวเรื่องนี้”

    ชาวเน็ตขุดภาพสาวคู่กรณี “แสตมป์” ในวันแต่งงาน อดีตสามีวอน “อย่าเอาผมไปเกี่ยวเรื่องนี้”

    กลายเป็นประเด็นร้อน กรณี แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องดัง ออกมาเปิดเผยว่า หายหน้าไม่รับงานร้องเพลงเกือบ 2 ปี เพราะภรรยาถูกคุกคามมาเป็น 10 ปีแล้ว ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แม้ที่ผ่านมาดำเนินการฟ้องร้องและภรรยาชนะคดีในศาลแล้ว แต่พ่อคู่กรณีรายหนึ่งซึ่งเป็นระดับนายพลข่มขู่จะยัดคดีทางการเมือง ก่อนบุกไปถึงบ้านแม่ของแสตมป์ รวมทั้งมีพฤติกรรมคุกคามหลายเรื่อง

    ต่อมาชาวเน็ตมีการขุดภาพหญิงสาวคู่กรณีในวันแต่งงานของเธอ ซึ่งปรากฏภาพเจ้าบ่าวถือหน้ากากที่เป็นใบหน้าของแสตมป์อยู่ด้วย 

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง คาดว่าเป็นเจ้าบ่าวในภาพได้ออกมาโพสต์ว่า “ผมกับเค้าเลือกจบชีวิตคู่กันมานานมากแล้ว อย่าเอาผมไปเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยครับ”

    ซึ่งใต้โพสต์ดังกล่าว แสตมป์-อภิวัชร์ ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์ว่า “ขอบคุณและขอโทษด้วยมากๆ ครับ ชินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยครับ”

     

  • ไฟเตือนน้ำมันหมดโชว์ ยังขับต่อได้ไกลแค่ไหน?

    เมื่อไฟเตือนน้ำมันในรถยนต์โชว์ขึ้นมา หลายคนคงสงสัยว่าจะสามารถขับต่อไปได้อีกไกลแค่ไหน คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นรถ ขนาดถังน้ำมัน สไตล์การขับขี่ และสภาพการจราจร

    โดยทั่วไปแล้ว เมื่อไฟเตือนน้ำมันโชว์ขึ้น รถยนต์ส่วนใหญ่ยังคงมีน้ำมันเหลืออยู่ในถังอีกประมาณ 40-50 กิโลเมตร แต่ระยะทางที่สามารถวิ่งได้จริงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระยะทางขับขี่คงเหลืออีก ได้แก่

    ขนาดถังน้ำมัน – รถยนต์ที่มีถังน้ำมันขนาดใหญ่ก็จะวิ่งได้ไกลกว่ารถยนต์ที่มีถังน้ำมันขนาดเล็ก
    สไตล์การขับขี่ – การขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน เช่น การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ จะช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้น
    สภาพการจราจร – การจราจรติดขัดหรือการเร่งเครื่องบ่อยๆ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
    สภาพรถ – สภาพของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ของรถยนต์ก็มีผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมันเช่นกัน

    สิ่งที่ควรทำเมื่อไฟเตือนน้ำมันโชว์

    หาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด – เมื่อไฟเตือนน้ำมันโชว์ขึ้น ควรหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดเพื่อเติมน้ำมันทันที
    ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง – ขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ และหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องหรือเบรกกระทันหัน
    อย่าปล่อยให้รถยนต์น้ำมันหมด – การปล่อยให้รถยนต์หมดน้ำมันอาจทำให้ปั๊มเชื้อเพลิงเสียหายได้

    ดังนั้น เมื่อไฟเตือนน้ำมันโชว์ขึ้น ควรหาปั๊มน้ำมันเติมน้ำมันให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปั๊มติ๊ก และควรตรวจสอบสภาพรถยนต์เป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ

  • “แต้ว ณฐพร- ประณัย พรประภา” พิธีมงคลเริ่มต้นชีวิตคู่ ภาพเต็มชื่นมื่นทั้งสองครอบครัว

    แต้ว ณฐพร – ประณัย พรประภา พิธีมงคลชีวิตเริ่มต้นชีวิตคู่ ทำบุญสองครอบครัว ณ วัดราชบพิธฯ

    เจ้าสาว แต้ว ณฐพร จับมือเจ้าบ่าวนักธุรกิจ ประณัย พรประภา ทายาทอาณาจักรสยามกลการ ประกอบพิธีบุญ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสิริมงคลเริ่มต้นชีวิตคู่ โดยมีสองครอบครัวเดินทางมาร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย เป็นภาพที่อบอุ่นและชื่นมื่นเป็นอย่างมาก

    ทั้งนี้ ภาพเต็มของสองครอบครัวในอินสตาแกรมของ เต๋า ณัฐวดี พี่สาวแต้ว ณฐพร ได้ลงไว้พร้อมกับคำอวยพรที่น่ารักว่า “I’m happy for both of you”

    ต้องบอกว่าภาพเต็มนั้นสวยงามมาก โดยเฉพาะเจ้าสาว แต้ว ณฐพร ที่สง่างามเหมาะกับชุดไทยเป็นที่สุด 

    ขอแสดงความยินดีกับ แต้ว ณฐพร และ ประณัย พรประภา ด้วยอีกครั้ง 

    รอชมภาพงานแต่งในวันที่ 24 มกราคมนี้ ต้องบอกว่าอลังการแน่นอน  

  • สถิติหวยออกวันศุกร์ งวดนี้ 17/1/68 รวมสถิติย้อนหลัง 10 งวด มีเลขเคยออกซ้ำ

    หวยงวดนี้ 17/1/68 ตรงกับ วันศุกร์ สำหรับหวยออกวันศุกร์ มีสถิติเลขที่ออกย้อนหลัง หลายครั้งที่มีเลขบางรางวัลออกซ้ำกัน สำหรับสถิติหวย เลขที่เคยออกใน วันศุกร์ ย้อนหลัง 10 งวด ของสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นแนวทางเลขเด็ดสำหรับ หวยงวด 17 มกราคม 2568 พร้อมแล้วไปดูได้เลย งวดประจําวันที่ 17/1/68

    สถิติหวยออกวันศุกร์ ย้อนหลัง 10 งวด

    งวด รางวัลที่ 1 2 ตัวบน 3 ตัวบน เลขท้าย 2 ตัว เลขหน้า 3 ตัว เลขท้าย 3 ตัว
    1 พฤศจิกายน 2567 536044 44 044 32 174 225 063 231
    16 สิงหาคม 2567 095867 67 867 28 212 334 697 728
    1 มีนาคม 2567 253603 03 603 79 900 975 382 703
    16 กุมภาพันธ์ 2567 941395 95 395 43 056 330 375 587
    1 ธันวาคม 2566 251097 97 097 91 055 265 092 280
    1 กันยายน 2566 915478 78 478 91 521 596 291 692
    16 มิถุนายน 2566 264872 72 872 30 519 628 202 874
    30 ธันวาคม 2565 157196 96 196 58 007 522 250 425
    16 ธันวาคม 2565 845093 93 093 14 411 912 593 855
    16 กันยายน 2565 943703 03 703 75 540 971 432 631
                 

     

    คลิกตรวจหวยและข่าวหวยได้ที่นี่

  • 10 อันดับ เลขเด็ดขายดีที่สุดงวดนี้ 17/1/68 หวยแม่จำเนียร แนวทางงวดนี้

    เลขเด็ด หวยแม่จำเนียร สรุปเลขขายดี สิบเลขฮิต 17/1/68

    การออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 เหล่าคอหวยก็ยังไม่ย่อท้อเช่นเคย ต่างเสาะหาเลขเด็ดเลขที่โดนใจ นำไปเสี่ยงโชคลุ้นรางวัล ทั้งเลขเด็ดจากคนดัง เลขเด็ดจากโซเชียล เลขเด็ดจากเหล่าผู้ให้แนวทางคนดังทั้งหลาย 

    สำหรับแนวทาง หวยแม่จำเนียร แผงหวยเจ้าดังได้สรุปเลขเด็ดขายดีในหวยงวดนี้ หรือที่แฟนๆ คอหวยเรียกกันว่า หวยใบชมพู ลองไปดูกันเลยดีกว่าว่าในงวดนี้มีเลขอะไรบ้าง

    คลิกตรวจหวยและข่าวหวยได้ทีนี่